กระแสการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันที่หลายๆคนให้ความสนใจ ยกตัวอย่าง การลงทุน คอนโด ไม่ว่าจะเป็นการเก็งกำไร, ปล่อยเช่ารายเดือน หรือลงทุนรีโนเวท ถ้าเปรียบเทียบกับการลงทุนอื่นๆ เช่น ลงทุนหุ้นหรือทองคำก็ตาม เรียกได้ว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีความผันผวนน้อยกว่า และยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ ไม่ใช่จะไม่มีขาดทุน หากคุณยังไม่เลิก 6 พฤติกรรมเหล่านี้!
1. ซื้อคอนโดเพราะเห็นว่ามีคนจองเยอะ เพื่อหวังเก็งกำไร
โดยเฉพาะวันพรีเซลล์วันเปิดขายวันแรกของโครงการ มีคนจำนวนไม่น้อยที่สนใจและอยากจะซื้อเอาไว้เก็งกำไร เพราะเห็นว่ามีคนเข้าคิวรอกันเป็นจำนวนมาก โดยที่ไม่ได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการมาก่อน สุดท้ายอาจจะต้องมาขายเท่าทุน หรือ แย่ที่สุดต้องจำใจขายขาดทุนก็เป็นได้
2. ซื้อคอนโดตามกระเเส Social
สำหรับทาสการตลาดโซเชียลแล้ว จะชอบคล้อยตามจากรีวิวจากคนดัง ไม่ว่าจะ ดารา, นักแสดง หรือ ยูทูปเบอร์ ที่ทางโครงการได้เชิญเพื่อรีวิวให้จนทำให้ตัวเราเองลืมหาข้อเสียในส่วนอื่นๆ
3. ซื้อคอนโด โดยไม่ศึกษาเครดิตของตัวเอง
ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนมือใหม่ที่อยากจะลงทุนคอนโดควรให้ความสำคัญ ในเรื่องของการเช็คเครดิตของตัวเองว่าสามารถกู้ได้เท่าไหร่ มีแนวโน้มจะผ่านมากน้อยแค่ไหน มองถึงตัวโครงการที่ต้องการจะซื้อราคาสูงเกินความสามารถของเราหรือไม่ หากตัดสินใจจองแต่สุดท้ายกู้ไม่ผ่านก็อาจจะโดนยึดเงินดาวน์ได้
4. ซื้อคอนโดแต่ไม่ศึกษาทำเล
หลายๆคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ลงทุนคอนโดใกล้รถไฟฟ้าคือดีแล้ว แต่ ไม่ได้คำนึงถึงในเรื่องแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น หรือโชคร้ายใกล้กับแหล่งงานที่ส่งกลิ่นหรือเสียงสร้างความลำบากใจแก่ผู้อยู่อาศัย
5. ซื้อคอนโดกับบริษัทที่ไม่รู้จัก
การลงทุนคอนโดกับบริษัทที่เพิ่งจับคอนโดฯใหม่ อาจจะเสียงรับความขาดทุนมากกว่า เมื่อเทียบกันในกรณีจะขายต่อของบริษัทใหญ่ๆที่มีชื่อเสียงกับบริษัทเล็กๆที่เพิ่งเริ่ม บริษัทใหญ่ๆย่อมมีเปอร์เซ็นต์การขายได้และราคาขายย่อมดีกว่า
6. ประเมินมูลค่าผิด
ส่วนมากเกิดกับผู้ที่หวังเก็งกำไรกับการขายต่อ เมื่อก่อนจะตัดสินใจซื้อก็ได้รับข้อมูลในแง่บวกมากเกินไป เช่น มีการเชื่อมโยงถึงระบบสาธารณูปโภคที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะส่งผลให้ราคาแพงขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง ทำให้มูลค่าไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง จนต้องขายเท่าทุนหรือขาดทุนในที่สุด