FOMO ย่อมาจาก “Fear Of Missing Out” เป็นหลักจิตวิทยาที่นำมาใช้เป็นเทคนิคการตลาดอย่างหนึ่ง โดยใช้ความรู้สึก “กลัว” ที่จะสูญเสียอะไรบางอย่างไปหรือการกลัวที่จะพลาดสิ่งสำคัญ มักที่จะใช้เขียนในภาพ, บทความ หรือวิดิโอ เป็นต้น อาชีพที่ผลิตสื่อโฆษณาไว้ใช้สื่อสารกับลูกค้ามักจะใช้เทคนิคนี้ และอาชีพนายหน้าอสังหาฯเองนอกจากเทคนิคในการพูดคุยกับลูกค้าในเรื่องการเขียนเพื่อดึงดูดลูกค้าบนออนไลน์ก็สำคัญเช่นกัน
สำหรับวันนี้ IQI Thailand จะพามารู้จัก เทคนิคการเขียนโฆษณา FOMO เทคนิคนี้จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้สนใจและตัดสินใจซื้อสินค้าเราได้อย่างไร?
FOMO คืออะไร? มาจากคำว่า Fear Of Missing Out คือ ความกลัวที่จะตกกระเเส ตกข่าว พลาดโอกาส ไม่ทันผู้ซื้ออื่น สำหรับในการขายสินค้าแบบเทคนิค FOMO คือ การทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ต้องการที่จะพลาดหรือปล่อยโอกาส สินค้า หรือ โปรโมชั่นนี้ให้หลุดมือไป, กลัวของชิ้นนั้นหมดไปก่อน เป็นต้น
เทคนิคการเขียนโฆษณา FOMO
1. ใช้เงื่อนไขของระยะเวลา
การกำหนดเวลาที่กระชันชิด แสดงให้เห็นว่าเป็นข้อเสนอที่มีเวลาจำกัด เป็นกลยุทธ์การเขียนที่มักจะพบเห็นกันบ่อยๆ ทั้งการกำหนดและไม่กำหนดวันที่และเวลา หรือ การกำหนดรูปแบบการนับถอยหลัง เช่น โปรโมชั่นเดือนมกราคม รับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท, รีบจอง! ก่อนปรับราคา, โปรโมชั่นฟรีดาวน์ ถึง 30 มิถุนายน 2566 นี้ เป็นต้น
2. แสดงให้เห็นว่ามีผู้สนใจซื้อและกำลังจะซื้อ
บอกว่า สินค้านี้กำลังมีคนสนใจอยู่เช่นเดียวกัน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เกิดแรงจูงใจมากขึ้นที่จะตัดสินใจซื้อ ทำให้รู้สึกถ้าไม่กดเข้าไปดูจะรู้สึกพลาดหรือทำให้เห็นว่าเพิ่งมีผู้ที่ซื้อสินค้าชิ้นนั้นไป ก็จะเพิ่มความมั่นใจว่ามีลูกค้าซื้อจริงๆ และมีแรงจูงใจที่แน่นขึ้นที่จะตัดสินใจซื้อตาม วิธีนี้พบบ่อยจากเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น ค้นหาโรงแรมโดยจะแสดงจำนวนผู้ที่กำลังดูห้องพักนี้ หรือ มีผู้จองโรงแรมนี้ไปแล้วเมื่อ 5 ชั่วโมงก่อน เป็นต้น
3. สื่อสารให้ผู้ซื้อทราบว่าจำนวนสินค้าเหลือน้อยแล้ว
การที่บอกว่าทรัพย์นั้นขายดีมากและมีเหลือจำนวนไม่มาก คือเทคนิคดึงดูดความสนใจของลูกค้าที่น่าสนใจอย่างมาก เช่น ห้องมุมห้องสุดท้าย, ยูนิตสุดท้าย, ห้องหลุดโอน 5 ยูนิตสุดท้าย เป็นต้น นับว่าเป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าที่ยังลังเลมีแรงจูงใจอยากจะซื้อมากขึ้น
4. มอบสิทธิพิเศษเฉพาะคุณ
ข้อความที่ทำให้ผู้ซื้อ, ผู้เข้ามาเห็นข้อความรู้สึกถึงความพิเศษ คืออีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจได้เช่นกัน โดยเจาะจงไปที่กลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่มีโอกาสจะซื้อสูงหรือได้รับสิทธิพิเศษ เช่น สิทธิพิเศษสำหรับพนักงานในเครือ เพียงแสดงบัตรพนักงาน รับส่วนลดสูงสุด XXX บาท, รับส่วนลดสำหรับคอนโดราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป เป็นต้น โดยอาจจะส่งเป็นอีเมล, ประกาศบนหน้าสื่อออนไลน์ เพื่อแจ้งส่วนลดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสจะซื้อแต่อยู่ในช่วงตัดสินใจเพื่อทำให้เขารู้สึกอยากใช้โปรโมชั่นที่คุณมอบให้ก็ได้
5. ใช้วิธีรีวิวจากลูกค้าจริง
การนำคำพูดเชิงบวกคือ วิธีนี้จะทำให้ผู้ที่ผ่านมาเห็นได้รับการันตีว่าสินค้า หรือ ทรัพย์ของคุณมีการซื้อขายจริงๆ และมีการรีวิวจากผู้ที่ซื้อจริงๆ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ที่สนใจอยู่มั่นใจที่จะทักข้อความเข้ามาสอบถามคุณ อาจจะนำไปทำเป็นคลิปวิดิโอรีวิว, นำไปใส่ไว้ในหน้า Landing Page หรือแคปชั่นบนโซเชียลมีเดียก็เป็นเครื่องยืนยันชั้นดีที่จะทำให้คนที่เข้ามาเห็นไม่อยากพลาดสินค้าของคุณไป